ม้ามังกรบินตามมาถึงในลานจอดรถชั้นหกของอาคารดังกล่าว เบียร์ผู้ควบคุมม้ามังกรบินด้วยสมองของเขาเองได้รายงานต่อนายกเต๋าซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลประเทศรัตติกาลว่า พบรถคว่ำอยู่แต่ไม่เห็นใครในรถเพราะระบบป้องกันความปลอดภัยสูงสุดของรถคันดังกล่าวทำให้ผู้ที่อยู่ภายในอาจได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหรือไม่บาดเจ็บเลย ผมคิดว่าพวกนั้นยังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกล
เบียร์เปิดเทคโนโลยีติดตามมนุษย์แล้วกดค้นหาชื่อจอห์นกับวารีจึงทำให้ทราบตำแหน่งที่ทั้งคู่หลบซ่อนอยู่แต่เบียร์ยังไม่รู้ชื่อของมะลิและช้างน้อยจึงไม่รู้ตำแหน่งของสองคนนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เบียร์จึงเก็บปีกของม้ามังกรบินเพื่อให้เคลื่อนไหวบนบกได้รวดเร็วขึ้นแล้วบังคับมันวิ่งไปทางจุดที่จอห์นและวารีอยู่ จอห์นเห็นม้ามังกรบินวิ่งตามมาแต่ไกลจึงรีบพาวารีซึ่งตอนนี้ได้สติแล้ววิ่งหนี ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณทำให้มะลิและช้างน้อยที่ซุ่มดูอยู่รู้ได้ทันทีว่าม้ามังกรบินมาแล้ว ช้างน้อยที่แฮกระบบรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับที่จอดอยู่ในอาคารได้สำเร็จบังคับรถวิ่งมาตรงข้ามกับทางที่ม้ามังกรบินวิ่งมา จอห์นและวารีหลบรถได้ทันเพราะวางแผนร่วมกันมาก่อนแต่ม้ามังกรบินที่วิ่งมาด้วยความเร็วหลบไม่ทันจึงถูกชนทำให้ร่างของมันพุ่งข้ามรถกระเด็นออกไปนอกอาคารแต่มันกางปีกได้ทันแล้วบินกลับเข้ามาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับพ่นลูกไฟใส่มะลิลูกหนึ่งแต่มะลิกลิ้งหลบทันแล้วใช้ปืนพกเล็กคู่ใจของเธอกระหน่ำยิงใส่ปีกข้างหนึ่งของมันไม่ยั้งเพราะเธอรู้แล้วว่าจุดที่อ่อนที่สุดของมันคือปีก ส่งผลให้ปีกของมันเสียหายมันจึงร่วงลงกลางลานจอดรถทันที ช้างน้อยพยายามบังคับรถยนต์ไฟฟ้าให้ถอยกลับมาทับมันแต่เครื่องยนต์นั้นเสียหายเพราะถูกลูกไฟของมันที่มะลิกลิ้งหลบ ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบันจะมีระบบที่ทำให้เครื่องไม่ติดไฟแต่ถ้าเครื่องร้อนเกินไปก็อาจทำให้เครื่องมีปัญหาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงวิ่งหนีเข้าไปในตัวอาคารและพบว่าคนที่อยู่ในอาคารทั้งหมดกำลังฟังเสียงอะไรบางอย่างคล้ายถูกสะกดจิตพร้อมกับมีภาพฉายโฮโลแกรม 3 มิติของพวกเขาปรากฏขึ้นกลางอาคาร ทั่วทั้งเมืองมีเสียงดังมาจากห้องควบคุมการกระจายเสียงที่จอห์นเคยใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 ข้อความเสียงมีใจความว่า ประกาศผู้ใดจับตัวคนทั้ง 4 ซึ่งก็คือจอห์น วารี มะลิและช้างน้อยได้สำเร็จจะมีรางวัลให้อย่างงาม รางวัลสำหรับการจับตายคือ 3 แสนบาทต่อหัว รางวัลสำหรับการจับเป็นคือ 5 แสนบาทต่อหัว
พวกของจอห์นจึงต้องพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้คนเห็นและไม่สามารถหลบหนีด้วยการลงลิฟต์ได้เพราะลิฟต์คับแคบและเสี่ยงต่อการถูกจับแต่ในที่สุดพวกเขาก็ถูกคนเห็น การหนีและการต่อสู้กันอย่างชุลมุนจึงเกิดขึ้น พวกจอห์นทั้งหมดถูกจับและท่าทางเหมือนจะไม่สามารถหนีได้อีก แต่พวกเขาก็ถูกกองกำลังของนายกโจ๊กตามมาช่วยได้ทันและพากลับไปยังฐานที่มั่น มะลิทำใจไม่ได้ที่คนของนายกโจ๊กฆ่าชาวบ้านตาย เจษจึงพูดว่าถ้าพวกนั้นไม่ตาย พวกเขาก็อาจจะต้องตาย สงครามมันก็เป็นแบบนี้แหละ ดังนั้นเราต้องหยุดสงคราม พร้อมทั้งอธิบายให้จอห์นหายสงสัยว่า มะลิเป็นหนึ่งในทีมของเขาและยุคปัจจุบันไม่มีทหารแต่มีรัฐบาลสองฝ่ายคือรัฐบาลของประเทศรัตติกาลและรัฐบาลของผู้ทรยศซึ่งเรียกตัวเองว่ารัฐอิสระ โดยยุคนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีทหารอีกต่อไป คำสั่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับผู้ที่ฉลาดที่สุดของแต่ละฝ่ายซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรีของฝ่ายนั้น ๆ
เมื่อเดินทางไปถึงฐานที่มั่นจอห์นก็ได้รู้ว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ใต้ดินและมีเทคโนโลยีภาพลวงตาปกป้องสถานที่อยู่จึงทำให้ปลอดภัยจากฝ่ายรัฐบาลมานาน เจษบอกว่าจากจุดนี้ถ้าพวกเขามองมาจากข้างนอก พวกเขาจะเห็นแค่ผืนดินและป่าแต่พวกเราได้เปรียบที่สามารถเห็นพวกเขาได้อย่างชัดเจน เราจะเสียเปรียบก็แค่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้นแหละ ต่อจากนั้นเจษได้บอกว่านายกโจ๊กเชิญพวกเขาทั้ง 4 คนเข้าพบเป็นการส่วนตัว มะลิตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่ทำงานมา นอกจากเจษแล้วไม่เคยมีใครได้เห็นหน้านายกโจ๊กมาก่อน เมื่อขึ้นไปถึงห้องของนายกโจ๊ก จอห์น วารี มะลิ ช้างน้อยต่างก็อึ้งกันไปหมดเมื่อพบว่าเธอเป็นผู้หญิง นายกโจ๊กอธิบายว่าที่เธอมีวันนี้ได้เพราะมีเจษ มะลิและทุกคนที่นี่เป็นกำลังสำคัญคอยสนับสนุนเธอ เธอบอกว่าที่เธอใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงสั่งการเป็นเสียงผู้ชายและใช้ชื่อผู้ชายเพื่อผลประโยชน์ทางความเชื่อมั่นเพราะผู้คนที่นี่ยังเชื่อมั่นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
เมื่อเสร็จสิ้นการสนทนานายกโจ๊กได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้ทั้ง 5 คน พร้อมกับกำลังทหารส่วนหนึ่งเพื่อบุกไปยังฐานที่มั่นของรัฐบาลประเทศรัตติกาล
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต ตอนที่ 3 (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น