วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

โคโรนี่ จิตล่าจิต : ตอนที่ 1

        วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 จอห์นเจ้าของบริษัทสายธารได้ถูกเชิญไปกล่าวบรรยายในห้องควบคุมการกระจายเสียงของรัฐบาลซึ่งเทคโนโลยีของประเทศนี้ก้าวไกลมาก ห้องควบคุมการกระจายเสียงแห่งนี้สามารถส่งข้อความเสียงของจอห์นให้คนทั่วทั้งประเทศได้ยิน 
        เมื่อกล่าวบรรยายเสร็จแล้ว จอห์นจึงเดินทางออกมาจากสถานที่ดังกล่าว แต่แล้วทุกอย่างก็มืดไปจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกทำให้เขาตื่นขึ้น เขาจึงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเดินทางไปข้างนอก เมื่อเขาเดินลงมาจากชั้นสองเขาได้พบกับวารีอยู่ในบ้านของเขา จอห์นงงว่าวารีเข้ามาอยู่ในบ้านเขาได้อย่างไรเพราะเขาจำได้ล่าสุดว่าเขารู้สึกมีใจให้วารีแต่ทั้งสองคนยังไม่ได้คบกัน เขาเปิดดูตารางงานพบว่าวันนี้เป็นวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจและรีบเดินทางออกไปทำงานซึ่งวันนี้เขาได้ถูกเชิญไปพูดเกลี้ยกล่อมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้ยอมไปโรงเรียน
        จอห์นเดินทางมาถึงที่หมายพบผู้ปกครองของเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวพาเขาเข้าไปในบ้าน เขาพบว่าเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อวารี จอห์นบอกเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า คนที่เขามีใจให้ก็ชื่อวารีเช่นกันและหน้าตาของวารีก็คล้ายกับเธอเป็นอย่างมาก เมื่อทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นได้พูดว่า "จอห์นตื่นเถอะ!! คุณจำไม่ได้หรอ? ตอนที่คุณอายุ 12 ปี คุณก็เคยมาหาฉันที่นี่" จอห์นได้ยินคำพูดนี้ซ้ำ ๆ ทำให้เขาปวดหัวอย่างมากจนทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองถูกพันธนาการอยู่บนเตียงรูปทรงประหลาดและมีอุปกรณ์บางอย่างครอบบริเวณศีรษะของเขาและครอบศีรษะของหญิงสาวที่อยู่เตียงข้าง ๆ เอาไว้ ซึ่งหญิงสาวคนนั้นก็คือวารี นักทดลองที่อยู่ในชุดทันสมัยสองคนต่างก็ตกใจที่จอห์นหลุดออกมาจากการถูกขังอยู่ในความทรงจำของวารีได้ ขณะที่พวกเขาเตรียมขังจอห์นกลับไปไว้ในความทรงจำของวารีอีกครั้งนั้นก็ได้มีสัญญาณเตือนอันตรายจากผู้บุกรุกดังขึ้นและหญิงสาวคนหนึ่งได้บุกเข้ามาช่วยจอห์นกับวารีได้ทันเวลา หญิงสาวคนนั้นแนะนำตัวว่าเธอชื่อมะลิ พร้อมกันนั้นเธอได้สังเกตเห็นว่าแหวนที่นิ้วชี้มือขวาของวารีคล้ายแหวนที่นิ้วชี้มือซ้ายของเธอมาก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะต้องรีบพาทั้งสองคนออกไป
        ระหว่างที่กำลังหนีออกจากตึกทดลองมะลิก็ได้อธิบายให้จอห์นฟังว่า เขากับวารีถูกลักพาตัวมาขังไว้ที่นี่ตั้งแต่วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 โดยรัฐบาลประเทศรัตติกาลได้ขังเขาไว้ในความทรงจำของวารี จอห์นบอกว่าประเทศที่เขาอยู่ไม่ได้ชื่อนี้ มะลิตอบว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนชื่อประเทศก็เปลี่ยนและเล่าต่อไปว่าที่เขากับวารีมีอายุมาได้ถึงปี พ.ศ. 3000 เพราะรัฐบาลมีการทดลองพัฒนาวัคซีนระงับการเสื่อมของเซลล์ได้สำเร็จและนำไปฉีดให้เขากับวารีจึงทำให้ทั้งคู่ไม่มีวันแก่ตายจะตายได้ก็ต่อเมื่อถูกฆ่าเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลเลือกเขาเพราะรัฐบาลรู้ความลับว่าเขาสามารถเข้าถึงจิตใจของผู้อื่นได้
        เมื่อออกมาถึงหน้าตึกมะลิได้ใช้นาฬิกาข้อมือพิเศษที่สามารถเรียกใช้บริการทุกอย่างได้ตามต้องการ โดยเธอเลือกเรียกใช้บริการแท็กซี่อากาศซึ่งคนที่ขับมาคือช้างน้อย จอห์นงงกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 3000 แต่เขาก็ยอมขึ้นรถแท็กซี่อากาศไปแต่โดยดี
        ระหว่างการเดินทางจอห์นพบว่าวารียังไม่ตื่นเสียทีจึงเข้าใจว่า เธออาจไม่สามารถออกมาจากการถูกขังไว้ในความทรงจำของตัวเองได้ เขาจึงตัดสินใจจับมือวารีเพื่อจะทำการกลับไปเข้าไปในความทรงจำของเธออีกครั้ง มะลิเตือนว่าการทำแบบนั้นอาจมีความเสี่ยงเพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์พิเศษเขาอาจติดอยู่ในความทรงจำของวารีโดยไม่สามารถกลับออกมาได้อีกทั้งสองคน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจอห์นยินดีที่จะเสี่ยง หลังจากที่จอห์นหลับสนิทช้างน้อยได้เห็นว่ามีลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งมาหลังรถจึงรีบหักหลบได้ทัน เขาพบว่าสิ่งที่ตามมาคือ ม้ามังกรบินหนึ่งในเอไอดัดแปลงพันธุกรรมของรัฐบาลประเทศรัตติกาล ขณะที่รถกำลังส่ายไปมาเพราะช้างน้อยต้องขับหลบลูกไฟมะลิก็กำลังพยายามจับมือของจอห์นและวารีไม่ให้หลุดออกจากกันเพราะทั้งสองคนกำลังเชื่อมจิตกันอยู่ จนกระทั่งรถแท็กซี่อากาศโดนลูกไฟจากม้ามังกรบินทำให้ระบบขับเคลื่อนอากาศเสียหายจึงเสียการควบคุม ช้างน้อยจำเป็นต้องตัดสินใจขับพุ่งเข้าไปในลานจอดรถชั้นหกของอาคารแห่งหนึ่งและพุ่งชนเข้ากับเสาอาคารพลิกคว่ำทันที

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต ตอนที่ 2 (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น