วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563

โคโรนี่ จิตล่าจิต : ตอนที่ 2

        ม้ามังกรบินตามมาถึงในลานจอดรถชั้นหกของอาคารดังกล่าว เบียร์ผู้ควบคุมม้ามังกรบินด้วยสมองของเขาเองได้รายงานต่อนายกเต๋าซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลประเทศรัตติกาลว่า พบรถคว่ำอยู่แต่ไม่เห็นใครในรถเพราะระบบป้องกันความปลอดภัยสูงสุดของรถคันดังกล่าวทำให้ผู้ที่อยู่ภายในอาจได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหรือไม่บาดเจ็บเลย ผมคิดว่าพวกนั้นยังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกล
        เบียร์เปิดเทคโนโลยีติดตามมนุษย์แล้วกดค้นหาชื่อจอห์นกับวารีจึงทำให้ทราบตำแหน่งที่ทั้งคู่หลบซ่อนอยู่แต่เบียร์ยังไม่รู้ชื่อของมะลิและช้างน้อยจึงไม่รู้ตำแหน่งของสองคนนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เบียร์จึงเก็บปีกของม้ามังกรบินเพื่อให้เคลื่อนไหวบนบกได้รวดเร็วขึ้นแล้วบังคับมันวิ่งไปทางจุดที่จอห์นและวารีอยู่ จอห์นเห็นม้ามังกรบินวิ่งตามมาแต่ไกลจึงรีบพาวารีซึ่งตอนนี้ได้สติแล้ววิ่งหนี ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณทำให้มะลิและช้างน้อยที่ซุ่มดูอยู่รู้ได้ทันทีว่าม้ามังกรบินมาแล้ว ช้างน้อยที่แฮกระบบรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับที่จอดอยู่ในอาคารได้สำเร็จบังคับรถวิ่งมาตรงข้ามกับทางที่ม้ามังกรบินวิ่งมา จอห์นและวารีหลบรถได้ทันเพราะวางแผนร่วมกันมาก่อนแต่ม้ามังกรบินที่วิ่งมาด้วยความเร็วหลบไม่ทันจึงถูกชนทำให้ร่างของมันพุ่งข้ามรถกระเด็นออกไปนอกอาคารแต่มันกางปีกได้ทันแล้วบินกลับเข้ามาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับพ่นลูกไฟใส่มะลิลูกหนึ่งแต่มะลิกลิ้งหลบทันแล้วใช้ปืนพกเล็กคู่ใจของเธอกระหน่ำยิงใส่ปีกข้างหนึ่งของมันไม่ยั้งเพราะเธอรู้แล้วว่าจุดที่อ่อนที่สุดของมันคือปีก ส่งผลให้ปีกของมันเสียหายมันจึงร่วงลงกลางลานจอดรถทันที ช้างน้อยพยายามบังคับรถยนต์ไฟฟ้าให้ถอยกลับมาทับมันแต่เครื่องยนต์นั้นเสียหายเพราะถูกลูกไฟของมันที่มะลิกลิ้งหลบ ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบันจะมีระบบที่ทำให้เครื่องไม่ติดไฟแต่ถ้าเครื่องร้อนเกินไปก็อาจทำให้เครื่องมีปัญหาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงวิ่งหนีเข้าไปในตัวอาคารและพบว่าคนที่อยู่ในอาคารทั้งหมดกำลังฟังเสียงอะไรบางอย่างคล้ายถูกสะกดจิตพร้อมกับมีภาพฉายโฮโลแกรม 3 มิติของพวกเขาปรากฏขึ้นกลางอาคาร ทั่วทั้งเมืองมีเสียงดังมาจากห้องควบคุมการกระจายเสียงที่จอห์นเคยใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 ข้อความเสียงมีใจความว่า ประกาศผู้ใดจับตัวคนทั้ง 4 ซึ่งก็คือจอห์น วารี มะลิและช้างน้อยได้สำเร็จจะมีรางวัลให้อย่างงาม รางวัลสำหรับการจับตายคือ 3 แสนบาทต่อหัว รางวัลสำหรับการจับเป็นคือ 5 แสนบาทต่อหัว
        พวกของจอห์นจึงต้องพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้คนเห็นและไม่สามารถหลบหนีด้วยการลงลิฟต์ได้เพราะลิฟต์คับแคบและเสี่ยงต่อการถูกจับแต่ในที่สุดพวกเขาก็ถูกคนเห็น การหนีและการต่อสู้กันอย่างชุลมุนจึงเกิดขึ้น พวกจอห์นทั้งหมดถูกจับและท่าทางเหมือนจะไม่สามารถหนีได้อีก แต่พวกเขาก็ถูกกองกำลังของนายกโจ๊กตามมาช่วยได้ทันและพากลับไปยังฐานที่มั่น มะลิทำใจไม่ได้ที่คนของนายกโจ๊กฆ่าชาวบ้านตาย เจษจึงพูดว่าถ้าพวกนั้นไม่ตาย พวกเขาก็อาจจะต้องตาย สงครามมันก็เป็นแบบนี้แหละ ดังนั้นเราต้องหยุดสงคราม พร้อมทั้งอธิบายให้จอห์นหายสงสัยว่า มะลิเป็นหนึ่งในทีมของเขาและยุคปัจจุบันไม่มีทหารแต่มีรัฐบาลสองฝ่ายคือรัฐบาลของประเทศรัตติกาลและรัฐบาลของผู้ทรยศซึ่งเรียกตัวเองว่ารัฐอิสระ โดยยุคนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีทหารอีกต่อไป คำสั่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับผู้ที่ฉลาดที่สุดของแต่ละฝ่ายซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรีของฝ่ายนั้น ๆ
        เมื่อเดินทางไปถึงฐานที่มั่นจอห์นก็ได้รู้ว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ใต้ดินและมีเทคโนโลยีภาพลวงตาปกป้องสถานที่อยู่จึงทำให้ปลอดภัยจากฝ่ายรัฐบาลมานาน เจษบอกว่าจากจุดนี้ถ้าพวกเขามองมาจากข้างนอก พวกเขาจะเห็นแค่ผืนดินและป่าแต่พวกเราได้เปรียบที่สามารถเห็นพวกเขาได้อย่างชัดเจน เราจะเสียเปรียบก็แค่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้นแหละ ต่อจากนั้นเจษได้บอกว่านายกโจ๊กเชิญพวกเขาทั้ง 4 คนเข้าพบเป็นการส่วนตัว มะลิตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่ทำงานมา นอกจากเจษแล้วไม่เคยมีใครได้เห็นหน้านายกโจ๊กมาก่อน เมื่อขึ้นไปถึงห้องของนายกโจ๊ก จอห์น วารี มะลิ ช้างน้อยต่างก็อึ้งกันไปหมดเมื่อพบว่าเธอเป็นผู้หญิง นายกโจ๊กอธิบายว่าที่เธอมีวันนี้ได้เพราะมีเจษ มะลิและทุกคนที่นี่เป็นกำลังสำคัญคอยสนับสนุนเธอ เธอบอกว่าที่เธอใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงสั่งการเป็นเสียงผู้ชายและใช้ชื่อผู้ชายเพื่อผลประโยชน์ทางความเชื่อมั่นเพราะผู้คนที่นี่ยังเชื่อมั่นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
        เมื่อเสร็จสิ้นการสนทนานายกโจ๊กได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้ทั้ง 5 คน พร้อมกับกำลังทหารส่วนหนึ่งเพื่อบุกไปยังฐานที่มั่นของรัฐบาลประเทศรัตติกาล

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต ตอนที่ 3 (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

โคโรนี่ จิตล่าจิต : ตอนที่ 1

        วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 จอห์นเจ้าของบริษัทสายธารได้ถูกเชิญไปกล่าวบรรยายในห้องควบคุมการกระจายเสียงของรัฐบาลซึ่งเทคโนโลยีของประเทศนี้ก้าวไกลมาก ห้องควบคุมการกระจายเสียงแห่งนี้สามารถส่งข้อความเสียงของจอห์นให้คนทั่วทั้งประเทศได้ยิน 
        เมื่อกล่าวบรรยายเสร็จแล้ว จอห์นจึงเดินทางออกมาจากสถานที่ดังกล่าว แต่แล้วทุกอย่างก็มืดไปจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกทำให้เขาตื่นขึ้น เขาจึงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเดินทางไปข้างนอก เมื่อเขาเดินลงมาจากชั้นสองเขาได้พบกับวารีอยู่ในบ้านของเขา จอห์นงงว่าวารีเข้ามาอยู่ในบ้านเขาได้อย่างไรเพราะเขาจำได้ล่าสุดว่าเขารู้สึกมีใจให้วารีแต่ทั้งสองคนยังไม่ได้คบกัน เขาเปิดดูตารางงานพบว่าวันนี้เป็นวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจและรีบเดินทางออกไปทำงานซึ่งวันนี้เขาได้ถูกเชิญไปพูดเกลี้ยกล่อมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้ยอมไปโรงเรียน
        จอห์นเดินทางมาถึงที่หมายพบผู้ปกครองของเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวพาเขาเข้าไปในบ้าน เขาพบว่าเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อวารี จอห์นบอกเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า คนที่เขามีใจให้ก็ชื่อวารีเช่นกันและหน้าตาของวารีก็คล้ายกับเธอเป็นอย่างมาก เมื่อทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นได้พูดว่า "จอห์นตื่นเถอะ!! คุณจำไม่ได้หรอ? ตอนที่คุณอายุ 12 ปี คุณก็เคยมาหาฉันที่นี่" จอห์นได้ยินคำพูดนี้ซ้ำ ๆ ทำให้เขาปวดหัวอย่างมากจนทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองถูกพันธนาการอยู่บนเตียงรูปทรงประหลาดและมีอุปกรณ์บางอย่างครอบบริเวณศีรษะของเขาและครอบศีรษะของหญิงสาวที่อยู่เตียงข้าง ๆ เอาไว้ ซึ่งหญิงสาวคนนั้นก็คือวารี นักทดลองที่อยู่ในชุดทันสมัยสองคนต่างก็ตกใจที่จอห์นหลุดออกมาจากการถูกขังอยู่ในความทรงจำของวารีได้ ขณะที่พวกเขาเตรียมขังจอห์นกลับไปไว้ในความทรงจำของวารีอีกครั้งนั้นก็ได้มีสัญญาณเตือนอันตรายจากผู้บุกรุกดังขึ้นและหญิงสาวคนหนึ่งได้บุกเข้ามาช่วยจอห์นกับวารีได้ทันเวลา หญิงสาวคนนั้นแนะนำตัวว่าเธอชื่อมะลิ พร้อมกันนั้นเธอได้สังเกตเห็นว่าแหวนที่นิ้วชี้มือขวาของวารีคล้ายแหวนที่นิ้วชี้มือซ้ายของเธอมาก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะต้องรีบพาทั้งสองคนออกไป
        ระหว่างที่กำลังหนีออกจากตึกทดลองมะลิก็ได้อธิบายให้จอห์นฟังว่า เขากับวารีถูกลักพาตัวมาขังไว้ที่นี่ตั้งแต่วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 โดยรัฐบาลประเทศรัตติกาลได้ขังเขาไว้ในความทรงจำของวารี จอห์นบอกว่าประเทศที่เขาอยู่ไม่ได้ชื่อนี้ มะลิตอบว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนชื่อประเทศก็เปลี่ยนและเล่าต่อไปว่าที่เขากับวารีมีอายุมาได้ถึงปี พ.ศ. 3000 เพราะรัฐบาลมีการทดลองพัฒนาวัคซีนระงับการเสื่อมของเซลล์ได้สำเร็จและนำไปฉีดให้เขากับวารีจึงทำให้ทั้งคู่ไม่มีวันแก่ตายจะตายได้ก็ต่อเมื่อถูกฆ่าเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลเลือกเขาเพราะรัฐบาลรู้ความลับว่าเขาสามารถเข้าถึงจิตใจของผู้อื่นได้
        เมื่อออกมาถึงหน้าตึกมะลิได้ใช้นาฬิกาข้อมือพิเศษที่สามารถเรียกใช้บริการทุกอย่างได้ตามต้องการ โดยเธอเลือกเรียกใช้บริการแท็กซี่อากาศซึ่งคนที่ขับมาคือช้างน้อย จอห์นงงกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 3000 แต่เขาก็ยอมขึ้นรถแท็กซี่อากาศไปแต่โดยดี
        ระหว่างการเดินทางจอห์นพบว่าวารียังไม่ตื่นเสียทีจึงเข้าใจว่า เธออาจไม่สามารถออกมาจากการถูกขังไว้ในความทรงจำของตัวเองได้ เขาจึงตัดสินใจจับมือวารีเพื่อจะทำการกลับไปเข้าไปในความทรงจำของเธออีกครั้ง มะลิเตือนว่าการทำแบบนั้นอาจมีความเสี่ยงเพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์พิเศษเขาอาจติดอยู่ในความทรงจำของวารีโดยไม่สามารถกลับออกมาได้อีกทั้งสองคน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจอห์นยินดีที่จะเสี่ยง หลังจากที่จอห์นหลับสนิทช้างน้อยได้เห็นว่ามีลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งมาหลังรถจึงรีบหักหลบได้ทัน เขาพบว่าสิ่งที่ตามมาคือ ม้ามังกรบินหนึ่งในเอไอดัดแปลงพันธุกรรมของรัฐบาลประเทศรัตติกาล ขณะที่รถกำลังส่ายไปมาเพราะช้างน้อยต้องขับหลบลูกไฟมะลิก็กำลังพยายามจับมือของจอห์นและวารีไม่ให้หลุดออกจากกันเพราะทั้งสองคนกำลังเชื่อมจิตกันอยู่ จนกระทั่งรถแท็กซี่อากาศโดนลูกไฟจากม้ามังกรบินทำให้ระบบขับเคลื่อนอากาศเสียหายจึงเสียการควบคุม ช้างน้อยจำเป็นต้องตัดสินใจขับพุ่งเข้าไปในลานจอดรถชั้นหกของอาคารแห่งหนึ่งและพุ่งชนเข้ากับเสาอาคารพลิกคว่ำทันที

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต ตอนที่ 2 (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home


โคโรนี่ จิตล่าจิต : ตัวละคร

        ขอแนะนำตัวละครหลักก่อน 5 คน ส่วนตัวละครอื่น ๆ ยังไม่เปิดเผยเพื่อความสนุกของเนื้อเรื่อง
        1. จอห์น อายุ 24 ปี เป็นเจ้าของบริษัทสายธาร ซึ่งในเวลาต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่มีวันแก่ตาย เขาจะตายก็ต่อเมื่อถูกฆ่าเท่านั้น
        2. วารี อายุ 23 ปี หญิงสาวปริศนาคนหนึ่งซึ่งเป็นคนแรกที่จอห์นตื่นขึ้นมาเห็นในปี พ.ศ. 3000 หรืออีก 440 ปีในอนาคต
        3. มะลิ อายุ 23 ปี หญิงสาวผู้ทรยศรัฐบาลประเทศรัตติกาลและมีความต้องการที่จะทำลายผู้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการโคโรนี่ให้สิ้นซาก
        4. ช้างน้อย อายุ 20 ปี คนขับรถแท็กซี่มากความสามารถที่มะลิเรียกใช้บริการเพื่อจะหลบหนี ในเวลาต่อมาเขาได้กลายเป็นพวกเดียวกับมะลิเต็มตัว
        5. นายกโจ๊ก อายุ 48 ปี เป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มที่ทรยศรัฐบาลประเทศรัตติกาลและตั้งตนเป็นรัฐอิสระหรือที่เรียกกันว่า รัฐซ้อนรัฐ (ในประเทศรัตติกาลมีรัฐบาลอยู่ 2 รัฐบาล)

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต ตอนที่ 1 (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

โคโรนี่ จิตล่าจิต : เรื่องย่อ

        สงครามโลกที่คนจำนวนมากล้มตายเพราะฆ่าฟันกันเองด้วยอาวุธเคยเกิดขึ้นมาแล้ว สงครามโรคที่คนต้องต่อสู้หาทางเอาชีวิตรอดจากโรคระบาดก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่สงครามทางจิตเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลของประเทศรัตติกาลจึงจัดตั้งโครงการโคโรนี่ขึ้นมาเพื่อใช้ในการทดลองประสิทธิภาพที่แตกต่างกันของสมองมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
        วันหนึ่งจอห์นเจ้าของบริษัทสายธารได้ถูกเพ่งเล็งว่าอาจเป็นหนึ่งในผู้ที่สมองมีความพิเศษกว่ามนุษย์ทั่วไปและนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเข้ามาพัวพันกับองค์กรนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับพบว่าต้วเองตื่นขึ้นมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 3000 หรืออีก 440 ปีในอนาคต เพราะเขาได้ถูกทดลองด้วยเทคโนโลยีอะไรบางอย่างทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของเขาไม่มีวันแก่ตาย เขาจะตายได้ก็ต่อเมื่อถูกฆ่าเท่านั้น เรื่องราวได้ดำเนินต่อไปเมื่อเขาได้พบกับมะลิหญิงสาวผู้ที่ทรยศรัฐบาลและต้องการวางแผนทำลายผู้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการโคโรนี่ให้สิ้นซาก

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ใน โคโรนี่ จิตล่าจิต (ลิขสิทธิ์เว็บไซต์ห้องเรียนครูแป้ง)
https://sites.google.com/site/teacherpangclassroom/home